site loader
site loader
20/07/2022 3 เรื่องสุดพีคฉีกขนบของแบรนด์ Marimekko

3 เรื่องสุดพีคฉีกขนบของแบรนด์ Marimekko

3 เรื่องสุดพีคฉีกขนบของแบรนด์ Marimekko

ถ้าใครเป็นสายแฟชั่นที่มีความน่ารัก และมินิมอลในเวลาเดียวกัน เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์มารีเมกโกะ (Marimekko) ที่เอกลักษณ์โดดเด่นภายใต้ดอกป๊อปปี้ หรือที่ชาวเราเรียกขานอย่างคุ้นเคยว่า ดอกอูนิกโกะ (Unikko) ดอกโตสีสด มีเรื่องราว ความรัก ความหวัง และพลังศรัทธาซ่อนอยู่ในนั้น ก่อนจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่างทุกวันนี้ ‘มารีเมกโกะ’ เริ่มขึ้นจากสาวนักโฆษณาผู้มีความหวังจะฟื้นชีวิตชีวาให้คนรอบตัวด้วยลายผ้าสีสันสดใส

จากโรงงานพิมพ์ผ้าเล็กๆ ในเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ กลายเป็นแบรนด์แห่งชาติ ด้วยวิธีคิดนอกกรอบ หัวก้าวหน้า ขบถ การปลดแอก ชีวิตที่อยู่อย่างรื่นรมย์กับธรรมชาติ มินิมอลสไตล์ ความเฟมินิสต์ และการพูดเรื่องความเท่าเทียม Unisex ตั้งแต่ยุค 50 ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีอายุอานามมายาวนาน และยังได้รับการตอบรับที่ดีในทุกๆ  Collection และการ Collaboration กับแบรนด์อื่นๆ เสมอมา และแบรนด์ Marimekko นี่ยังมีเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ทั้งของโลก และ โลกแฟชั่นอีกมากทีเดียว วันนี้ Flex 104.5 จึงหยิบมาสัก 3 เรื่องที่น่าสนใจเอามาเล่าให้ทุกคนฟังกัน เริ่มเลย

เรื่องที่ 1 Marimekko  ดังในข้ามคืนเพราะ แจ็กเกอลีน เคนเนดี้ สตรีหมายเลขหนึ่งจากสหรัฐ เพราะเธอ (Jacqueline Kennedy) เลือกซื้อชุดมารีเมกโกะถึง 7 ชุด แทนชุดจากแบรนด์ดังที่ส่งมาให้จากฝั่งยุโรป ด้วยเหตุผลว่า “ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังราคาแพงเลย เรียบๆ แบบนี้ก็สวยงาม” ก่อนจะเลือกใส่ขึ้นปกนิตยสาร Sports Illustrated เมื่อปี 1960 ทำให้มารีเมกโกะดังในชั่วข้ามคืน เป็นที่พูดถึงในนิตยสารแฟชั่นทุกสำนักทั่วอเมริกา

เรื่องที่ 2 Marimekko    บุกเบิกชุดสำเร็จรูปในทรงปล่อยสบายแทนการผูกรัดอย่างในอดีต พราะสมัยนั้น ต้องมีการรัดทรวดทรงให้เป๊ะ ตามแบบมาตรฐาน แต่มารีเมกโกะฉีกกระแสโลกด้ยลวดลายขนาดใหญ่และสีสันฉูดฉาด ตามด้วยลาย Abstract และการให้อิสระแก่นักออกแบบเต็มที่

และเรื่องสุดท้าย ลายพิมพ์ดอกป๊อปปี้ หรืออูนิกโกะ (Unikko, 1964) ในตำนาน เกิดขึ้นจจากการความกล้าของ ไมยา อีโซลา (Maija Isola) นักออกแบบผู้แหกกฎเหล็กของเจ้าของแบรนด์ที่ไม่อนุญาตให้ออกแบบลายดอกไม้ แต่เธออยากให้ลวดลายจากมารีเมกโกะใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างเท่าเทียมจึงตัดสินใจวาดขึ้นมาทั้งๆ ที่คิดว่าอาร์มี ราเตีย (Armi Ratia) เจ้าของแบรนด์จะปัดตก แต่กลับตอบรับทันที นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของดอกป๊อปปี้ที่ไม่เคยโรยราบนเสื้อผ้า กระเป๋า และสินค้าทุกประเภท ของมารีเมกโกะ ซึ่งได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน และกลายเป็นลายประจำชาติฟินแลนด์ไปแล้ว

และนี่เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นในเรื่องราวฉีกขนบของแบรนด์ Marimekko ถ้าใครอยากจะไปสัมผัสความสดใส และ ความเป็นมาอันโดดเด่นของแบรนด์ละก็ ตาม FJ. เซน และ โม โมจิโกะ ไปเที่ยว  Marimekko Pop-up Cafe นรายการ Flex FJ Story ได้เลp รับรอง น่ารัก สุดคิวบ์ และทุกเมนูพรีเมี่ยมทั้งรสชาติ และ ดีไซน์ของคาเฟ่แน่นอน

ขอบคุณข้อมูล :   https://www.marimekko.co.th/page/marimekko-cafe/?gclid=Cj0KCQjwidSWBhDdARIsAIoTVb3P9Y5ypNCRJ22ayB4g6Pc0xWNVOMlJ6h__4EvThfzG6gbrS7DAgWIaAmZyEALw_wcB

และ https://readthecloud.co/bigbrand-marimekko/

Related Post
Craftsule

ช่วงนี้หลายคนก็คงต้อง Quarantine อยู่กับบ้านกันใช่ไหมหละครับ หลัง Working Hours ทั้งวันก็ได้เวลาพักผ่อนแล้วซิ!

แนะนำ 10 ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกที่เป็น LGBTQ+ ที่นอกจากจะพูดถึงเรื่องความรัก ก็ยังแฝงไปด้วยข้อคิด และสิทธิทางกฎหมาย

FJ STORY

ก็นะ...เล่นโสดซะนาน งานนี้ บอสจี๊ป เทพอาจ ก็เลยขอชวน FJ ต้นมาร่วม Project “ ชวนน้องมาร้องเพลง”