เมื่อสงครามไม่มีที่สิ้นสุด สิงค์โปร หยุดรบ โควิด เลือกอยู่ร่วมให้ได้!
รัฐบาลสิงคโปร์เผยต้องต่อสู้และรับมือกับสงครามการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19 มาอย่างยาวนาน ออกมาตรการต่าง ๆ มากมาย หวังกำจัด ‘ศัตรูตัวร้าย’ ให้พ้นประเทศ แต่มาวันนี้ ชาวสิงคโปร์เริ่ม ‘เหน็ดเหนื่อย’ มากขึ้นกับการต่อสู้ จนต้องหาทางอยู่ร่วมกับไวรัสชนิดนี้ให้ได้ สิงคโปร์กำลังวาดโครงการใหม่สำหรับโควิด-19 ซึ่งได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว
แกน คิมยง, ออง เยคุง และลอว์เรนซ์ หว่อง สามรัฐมนตรีที่ร่วมเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านการรับมือไวรัสโควิด-19 เขียนลงในคอลัมน์แสดงความคิดเห็นผ่านหนังสือพิมพ์ The Straits Times ของสิงคโปร์ ว่า “ทุกคนต่างถามว่าโรคระบาดจะสิ้นสุดเมื่อไหร่และอย่างไร? ข่าวร้าย คือ โควิดจะไม่หายไปไหน แต่ข่าวดี คือ เราสามารถอยู่กับมันได้อย่างปกติ หมายความว่า ‘โควิด-19’ ได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว” รัฐมนตรีทั้งสาม กล่าวว่า แม้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวเองได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และใช้ยาเพียงเล็กน้อย หรือไม่ใช้เลย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศว่า ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่ง ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส รัฐบาลสิงคโปร์ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชน 8 หมื่นคนต่อวันในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน เพิ่มจากเดิม 47,000 คน และจะติดตามให้ประชาชนได้รับวัคซีน 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด อย่างน้อย 1 โดส ภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้
รัฐมนตรีทั้งสามคน การออกแนวทางใหม่เพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19 ของสิงคโปร์ นอกจากวางแผนเดินหน้าฉีดวัคซีนแล้ว ยังรวมไปถึงการตรวจหาเชื้อที่เข้าถึงง่ายขึ้น และรู้ผลเร็วขึ้น
เจ้าหน้าที่อาจเลิกติดตามและกักกันผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลทุกครั้งที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ เนื่องจากตรวจสอบง่ายและรวดเร็ว ทำให้สามารถยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่ นักท่องเที่ยวจะได้รับการตรวจสอบเมื่อออกเดินทาง และยกเว้นการกักตัว เมื่อพวกเขามีผลตรวจเชื้อเป็นลบ และกลับบ้านได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามแนวทางใหม่ เพื่อลดข้อจำกัดการเดินทางสำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว