ฮ่องกง จ่อโยนทิ้งวัคซีน Pfizer หลายล้านโดส เหตุซื้อมาเยอะใกล้หมดอายุแล้ว
ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น (หรือดินแดน หรือเขตปกครองพิเศษ) ที่โชคดีและสามารถจัดสรรหาวัคซีนได้ครอบคลุมและมากพอต่อความต้องการของประชากร ซึ่งในกรณีของฮ่องกงคือ 7.5 ล้านคน
รัฐบาลฮ่องกงซื้อวัคซีน Pfizer-BioNTech และ Sinovac รวมทั้งหมด 7.5 ล้านโดส และยังได้สั่งซื้อวัคซีน Astrazeneca อีก 7.5 ล้านโดส เอาไว้ล่วงหน้า สำหรับฉีดให้ประชาชนในปีหน้า โดยมั่นใจว่าจะสามารถฉีดได้อย่างทั่วถึง
แต่ประชาชน ยังไม่เชื่อมั่นในการจัดการกับโรคระบาด การบริหารจัดการการฉีดวัคซีน ของรัฐบาล ไปจนถึงข้อมูลผิด ๆ ที่แชร์บนสังคมออนไลน์ ทำให้ประชาชนชาวฮ่องกงขาดความกระตือรือร้นที่จะไปฉีดวัคซีน พอจะไปฉีดก็เกิดความลังเลใจว่าควรฉีดหรือไม่
ซึ่งฮ่องกงได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech มาแล้ว 3,263,000 โดส แต่เพิ่งเอาเข้าระบบและผ่านการตรวจสอบเพียง 1,231,600 โดส นอกจากนี้แล้ว จำนวนประชาชนที่ฉีควัคซีนครบ 2 เข็มมีเพียง 14% ส่วนประชาชนที่ฉีควัคซีนเข็มแรกไปแล้ว มีเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ จากประชากรทั้งหมด
นายโธมัส จาง อดีตเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมโรคและการสาธารณสุข ออกมากล่าวว่า วัคซีนทุกชนิดล้วนมีวันหมดอายุทั้งนั้น และการที่ฮ่องกงนั่งอยู่เฉย ๆ ท่ามกลางวัคซีนเป็นล้าน ๆ โดสและจะโยนทิ้งไปโดยไม่ทำอะไรเลย ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกขวนขวายหาวัคซีนกันแทบตาย มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ตอนนี้ฮ่องกงเหลือเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ในการเร่งฉีดวันซีนไฟเซอร์ ก่อนที่จะหมดอายุ เพราะถ้าหากวัคซีนหมดอายุแล้วจะไม่สามารถใช้งานได้ ต้องกำจัดทิ้งสถานเดียว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ