“เภสัชกร” ติดโควิด
แชร์ How to Home Isolation รักษาเองจนหายภายใน 9 วัน
โลกออนไลน์ ได้แห่แชร์โพสต์ของเภสัชกรสาว เจ้าของเฟซบุ๊ก Suthamart Sathidkul ซึ่งได้โพสต์เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เล่าประสบการณ์ติดโควิด-19 ก่อนจะรักษาตัวจนหายภายใน 9 วัน ด้วยการ Home Isolation
หลังจากทราบว่าตัวเองติดโควิดราวๆ วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 แต่ตกหล่นจากระบบcแม้ลงกรอกฟอร์มไปตามขั้นตอนแล้ว และยังไม่มีทีมงานใดเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเธอได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามา 1 เข็ม ประมาณเดือนกว่าๆ และเป็นคนแข็งแรง แม้ไม่ค่อยออกกำลังกาย แต่ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ค่า bmi ไม่เกิน
ซึ่งแฟนที่อยู่ด้วยกันมาหลายวัน หรือคนที่ไปกินข้าวด้วยไม่มีใครติด คาดว่าอาจเพราะฉีดวัคซีนเลยไม่แพร่เชื้อให้ใคร
จากนั้นเธอจึงเริ่มประเมินอาการตัวเอง แต่ปรากฎว่าไม่มีอาการ เพราะตอนเจ็บคอ คัดจมูกเมื่อ 2 วันก่อน ก็กิน ไอบรูโพรเฟน กินยาแก้แพ้ พ่นยาลดการคัดจมูกไปแล้ว เลยจัดตัวเองอยู่กลุ่มผู้ป่วยสีเขียวสดใส ไม่มีอาการ จึงตัดสินใจ Home Isolation
เภสัชกรสาว เผยวิธีรักษาและดูแลตัวเอง เริ่มจากเรื่องทั่วๆ ไป คือพยายามกินข้าวให้ครบ 5 หมู่ ทั้ง 3 มื้อ กินให้หลากหลาย ทั้งผัก ผลไม้ น้ำอุ่น หรือน้ำขิง ที่เขาว่าดีก็กินหมด นอนเยอะๆ ออกกำลังกาย
ประกอบกับส่วนตัวได้มีการทำความสะอาดห้องด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง แยกกันอยู่กับแฟน แยกโซนกันชัดเจน ไม่กินข้าวด้วยกัน ห้องน้ำก่อน-หลังใช้ต้องทำความสะอาดทุกครั้ง
การกินยา ส่วนตัวกิน Vitamin high dose ใครจะกินตามก็ดูเงื่อนไขของตัวเองด้วยว่าไตไหวไหม เคยเป็นนิ่วหรือเปล่า
Vitamin c ที่กินเป็นของ blackmore 1000 mgx3 ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น
Zinc 50 mg/day
Vitamin D 5000 iu/day
ไม่ได้กินฟ้าทะลายโจรแต่อย่างใด (แอบกินกระชายนิดหนึ่ง) เพราะหาไม่ได้และเอาจริงก็ไม่อยากกินขนาดนั้น เคยกินฟ้าทะลายโจรแล้วเหมือนเป็นกรดไหลย้อน
สำหรับยาที่กินก็จะกินตามอาการ คือ
ยากดการไอ terco-d (dextromethophan) 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร
ยาละลายเสมหะ ambroxol 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง
ยาลดไข้ ส่วนตัวไม่มีไข้ ถ้ามีก็กินพารา
ยาแก้เจ็บคอ กิน ibuprofen 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง
ยาลดน้ำมูก แก้แพ้ ส่วนตัวกิน telfast หรือ zyrtec สลับไป กินวันละ 1 เม็ด วันละครั้ง
ยาลดอาการคัดจมูก กิน nasolin 1 เม็ดวันละ 4 ครั้ง และพ่นจมูกด้วย otrivin และล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
ถ้าระคายคอ ก็พ่นสเปรย์ รวมถึงกินยาอมด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างรักษาตัว แนะนำให้จดอาการตัวเองในแต่ละวัน ถ้าเอกซเรย์ปอดได้บ่อยก็ยิ่งดี จะได้รู้ว่าเชื้อลงปอดหรือไม่ และหมั่นคอยวัดอุณหภูมิ และออกซิเจนด้วย เพราะหากมีอาการเหนื่อย มีไข้สูงมาก หายใจไม่เต็มปอด ให้ไปโรงพยาบาลทันที