สื่อนอกปล่อยข่าว “ไทยปรับสูตรวัคซีน”
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน รัฐบาลไทยตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยการปรับฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อ โดยปรับให้ฉีดเข็มแรกเป็นวัคซีนของซิโนแวค และเข็มสอง เป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา ขณะที่พบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังมีบุคลากรการแพทย์หลายร้อยคนติดเชื้อโควิด ทั้งที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว แทนที่จะฉีดวัคซีนซิโนแวคอย่างเดียวทั้ง 2 เข็ม ประชาชนจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาในเข็มที่ 2 หลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก ในขณะที่บุคลากรการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว จะได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย เข็มที่ 3 เป็นวัคซีนต่างชนิดกัน
ขณะนี้ วัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเพียงวัคซีนอีกชนิดเดียวในประเทศไทย นอกจากซิโนแวค ในขณะที่วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ทั้งของบริษัทไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะมาถึงประเทศไทยในเร็วๆ นี้
โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของไทย แถลงว่า ในจำนวนบุคลากรการแพทย์กว่า 677,000 คน มีบุคลากรการแพทย์ติดโควิดระหว่างเดือนเมษายน และกรกฎาคม 618 ราย ซึ่งมีพยาบาลเสียชีวิต 1 รายและอีกรายมีอาการหนัก ถึงแม้ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคสองเข็ม
ตามผลการศึกษาวัคซีนซิโนแวคในประเทศชิลีซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ นิว อิงแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าวัคซีนซิโนแวค มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 65.9% สามารถป้องกันอาการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล 87.5% และป้องกันการเสียชีวิต 86.3%
ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังอยู่ท่ามกลางการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น สถิติสูงสุดที่วันที่ 10 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อสูงถึง 9,418 และเสียชีวิต 91 ศพ โดยจากความกังวลในเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนจากจีนที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้น ได้เป็นแรงผลักดันอย่างหนักให้มีการฉีดวัคซีนยี่ห้ออื่นในประเทศไทย