The Yers ถ่ายทอดความโรแมนติกและมุมความรักด้านบวกที่สุดตั้งแต่เคยทำมา
ผ่านเพลงใหม่ “ถูกเวลา”
ที่ผ่านมาเรื่องราวความโรแมนติก และมุมมองความรักด้านบวกอาจไม่ใช่ทางของ The Yers (เดอะ เยอร์ส) เพลงส่วนใหญ่ของพวกเขามักถูกท่ายทอดผ่านเรื่องราวความรักที่เจ็บปวดและมืดหม่น อย่างเพลง เสพติดความเจ็บปวด, เพียงหนึ่งครั้ง, เกลียด, ตำรับยาจนถึงล้างแค้น
แต่ล่าสุด อู๋ – ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ (ร้องนำและกีตาร์), ต่อ – พนิต มนทการติวงค์ (กีตาร์), โบ๊ท – นิธิศ วารายานนท์ (เบส) และบูม – ถิรรัฐ ภู่ม่วง (กลอง) ก็ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมามีชื่อว่า “ถูกเวลา” ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้น่าจะเซอร์ไพรส์แฟนเพลงไม่น้อยกับกลิ่นไอความโรแมนติกและมุมมองความรักด้านบวกในแบบที่ The Yers ไม่เคยเล่าถึงมุมนี้มาก่อน โดยไอเดียโรแมนซ์นี้มาจาก อู๋ (ร้องนำและกีตาร์) ที่อยากถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการขอแต่งงานว่า มันจะเป็นไปได้ไหม ถ้าเราจะพูดประโยคนั้นในเวลาที่ใช่และสถานที่ที่ถูกต้อง เหมือนว่าความโรแมนติกที่มันอยู่ถูกที่ถูกทาง จะทำให้ทุกอย่างลงตัวหรือไม่ ส่วนในพาร์ทของดนตรีเพลงนี้มีจังหวะกลางๆ แต่ยังคงสีสันและวิธีการเล่นที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเสียงซินธิไซเซอร์ในแบบ The Yers ที่ทุกคนคุ้นเคยและเป็นสไตล์เพลงของอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ของ The Yers ภายใต้สังกัด Genie Records (จีนี่ เรคอร์ดส) ที่จะปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันในปีนี้อย่างแน่นอน
อู๋ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของเพลงนี้ว่า … “ผมได้ไปแคมป์ปิ้งครั้งแรกในชีวิตกับเพื่อนๆ ความจริงผมเป็นคนชอบธรรมชาตินะครับ แต่แคมป์ปิ้งมันก็ไม่ใช่ทางผมเท่าไหร่ แต่พอภรรยาผมชวน ด้วยความที่ตามใจก็เลยลองไปดู พอไปถึงกว่าจะกางเต็นท์ได้ก็เหนื่อยแล้ว ไม่สนุกเลย แต่พอหายเหนื่อยได้มานั่งทานอาหารที่เตรียมมา ได้นั่งคุยกับเพื่อนๆแล้วก็รู้สึกว่า เออ บรรยากาศมันดีเหมือนกันนะ ดาวก็สวย ต้นไม้ก็สวย อากาศก็กำลังดีสบายๆ แล้วเพื่อนๆผมก็เตรียมพวกไฟปิงปองมาตกแต่ง ซึ่งผมชอบไฟประเภทนี้มาก รู้สึกว่าไฟพวกนี้เวลามันอยู่ถูกที่ มันสวยและสร้างบรรยากาศได้ดีมากๆ พอทุกอย่างมันเริ่มลงตัว บทสนทนาต่างๆบวกกับเกมบ้าๆบอๆก็เริ่มทยอยมาเติมความสนุกสนานให้ทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็นั่งมองภรรยาผมเม้าท์มอยตามสไตล์เวลาอยู่กับเพื่อนสนิท คือไม่มีใครรู้ (แม้กระทั่งภรรยาผมเอง) ว่าผมเป็นคนชอบแอบมองภรรยาตัวเองอยู่เสมอเวลาเค้าพูดคุยอย่างเมามันหรือขำจนน้ำตาเล็ด แล้วผมก็รู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้มันน่าจะโรแมนติคมากๆเลยนะ ถ้าเราจะขอใครสักคนแต่งงาน ผมอยากลองเป็นคนๆนั้นที่ได้ทำเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่ในบรรยากาศเล็กๆและอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนสนิทที่เป็นสักขีพยานดูจัง มันเลยเกิดเป็นความรู้สึกขึ้นมาว่า มันจะถูกเวลามั้ย ? ถ้าเราจะขอเค้าแต่งงานตอนนี้ ? แต่ผมแต่งงานแล้ว ผมเลยแต่งเพลงนี้ให้เค้าแทนครับ”