10 ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ LGBTQ+ ที่ Flex104.5 อยากให้คุณดู
แน่นอนว่าตอนนี้เราอยู่ใน Pride Month ครั้นจะมาพูดถึงเรื่องของการเรียกร้องสิทธิต่างๆ และความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายทางเพศ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันซ้ำซากหลายครั้งจนหลายๆ คนอาจจะเบื่อ วันนี้ Flex 104.5 คิดว่า เราน่าจะมาคุยถึงเรื่องนี้กันผ่าน Soft Power อย่างภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเอกที่เป็นเพศทางเลือกนั่นก็คือ LGBTQ+ ที่นอกจากจะพูดถึงเรื่องความรัก ความรู้สึกภายในจิตใจ ยังแฝงไปด้วยข้อคิด และ สิทธิทางกฎหมายที่เพราะอะไรพวกเขาถึงควรจะได้รับสิ่งนี้
เริ่มด้วย เรื่องแรก ภาพยนตร์ไทยในตำนานยุค 90 นั่นก็คือ สตรีเหล็ก ที่มีถึง 2 ภาค และยังถูกรีเมคอีกครั้งในนักแสดงเซทใหม่ในปี 2014 แต่ที่เป็นอมตะต้องภาคแรกเลยจ้า เพราะนอกจากจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในยุคนั้น ยังแสดงถึงการต่อสู้อย่างเท่าเทียมของทุกๆ เพศ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊ด กระเทย เกย์แอบแมน ผู้ชายแท้ ยาวไปจนถึงทอม ซึ่งล้วนเป็นตัวละครหลักในเรื่องทั้งสิ้น ที่ต้องมาทำงานร่วมกันเป็นทีม ผ่าฟันอุปสรรค กอดคอร่วมกัน มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่อง และยิ่งไปกว่านั้น …ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสร้างมาจากเรื่องจริงอีกด้วย
เรื่องที่ 2 ไม่พูดถึงก็ไม่ได้ นั่นก็คือ “รักแห่งสยาม” ถือว่าเป็นตำนานอีกบทนึงเลยทีเดียวของวงการภาพยนตร์ไทย ที่ได้สร้างนักแสดงมากความสามารถอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ อีกมากมาย พร้อมทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ยังคงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ และที่สำคัญยังบอกเล่าถึงการข้ามผ่านในการแสดงตัวตนกับคนในครอบครัวอีกด้วย
เรื่องที่ 3 ความน่าสนใจคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าผ่านภาพบรรยากาศของชนบท ประเพณีทางศาสนา และความสวยงามของความรัก และการจากลา “มะลิลา” ที่สำคัญยังได้นักแสดงมากความสามารถมาร่วมแสดงอีกด้วยนั่นก็คือ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” และ “โอ อนุชิต” รับประกันความทรงพลังในการแสดงล้านเปอร์เซนต์
เรื่องที่ 4 เรื่องนี้อาจจะนอกกระแสไปสักนิด และหลายๆ รีวิวบอกว่ายังไม่โดนใจ แต่พล๊อตที่หยิบมาใช้ หลายๆ คนถึงกับสะอึก นั่นก็คือ “1448 Love Among Us รักเราของใคร” เป็นเรื่องราวความรักของคู่ฝั่ง “ผู้หญิง และ ผู้หญิง” บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมมากพอสมควร แต่เรื่องราวหลักๆ จะพูดถึงเรื่องของมาตรากฎหมาย 1448 ว่าด้วยเรื่องการสมรส ที่เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณ เข้าใจในเรื่องของการเรียกร้อง “สมรสเท่าเทียม” มากขึ้นแน่นอน
เรื่องที่ 5 ภาพยนตร์ไทยเรื่องสุดท้ายที่ Flex104.5 คิดว่าคุณควรจะต้องดูอย่างยิ่ง เพราะเรื่องนี้แสดงถึงความลื่นไหลทางเพศได้อย่างชัดเจนมากจริงๆ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรือเป็นใคร? ผลสุดท้าย พลังแห่งความรักสำคัญที่สุด นั่นก็คือเรื่อง “Me, My self” ที่สำคัญนักแสดงนำในเรื่องนี้คือ สุดหล่อตลอดการ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ที่พลิกบทบาทได้อย่างเหลือเชื่อและยังสร้างเซอร์ไพร์สมากมายไว้อีกด้วย
มาต่อที่ ฝั่งต่างประเทศบ้างดีกว่า… เรื่องที่ 6 นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ไม่ได้รับความสนใจในบ้านเรามากนัก แต่เป็นภาพยนตร์ที่บอกถึงเรื่องราวการต่อสู้ของการแปลงเพศในช่วงแรกๆ ของโลกเลยทีเดียว นั่นก็คือ “The Danish Girl” อีกหนึ่งความลื่นไหลทางเพศที่คุณได้ดูแล้วจะยิ่งเข้าใจคำว่ารักอย่างลึกซึ้งที่สุดจริงๆ
เรื่องที่ 7 “The Favourite” ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะไม่ได้พูดถึงการต่อสู้ในสิทธิ์ และ ศักดิ์ศรีมากนัก แต่ทำให้เรารู้ว่า เรื่องลับๆ ในราชวงศ์ และความหลากหลายทางเพศนั้นมีมานานนมเป็น 100 ปีแล้ว อย่างไรก็ดีแค่ได้ดูเสื้อผ้า หน้าผม ฉาก และการแสดงของ Emma Stone ก็เพียงพอที่คุณจะนั่งนิ่งๆ เพื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้สัก 2 ชั่วโมงโดยไม่เบื่อเลย
ต่อกันด้วยเรื่องที่ 8 มาที่ฝั่งเอเชียกันบ้าง อย่างโซนเกาหลีใต้ นั่นก็คือเรื่อง “The handmaiden” เรื่องนี้นับว่าเป็นการประกบของซุปเปอร์สตาร์ฝั่งเอเชียมากมาย ที่ทุกวันนี้การแสดงของเรื่องนี้ยังถือเป็นงานชั้นครูของอุตสาหกรรมของภาพยนตร์ในเกาหลีใต้เลยทีเดียว ทั้งยังสอดแทรกเรื่องราวของ “เล่ห์กลของเสน่หาสุดเร้าร้อน” พร้อมทั้งฉากเลิฟซีนที่ซ่อนความสวยงามได้อย่างแนบเนียน พร้อมพล๊อตหักมุมที่คุณจะต้องร้องว๊าว
เรื่องที่ 9 ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ภาพยนตร์ที่ พ่อ-แม่ ที่กำลังจะมีลูกเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และการค้นหาเส้นทางของตัวเองว่าจะเดินไปในทิศทางใดไม่ควรพลาด นี่เลย “Tomboy” เรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่คิดอยากจะลองเปลี่ยนตัวเองเป็นเด็กผู้ชาย เป็นหนึ่งในลิสต์ภาพยนตร์เนื้อหาดีที่ Flex104.5 ไม่อยากให้คุณพลาด
และสุดท้ายเรื่องนี้ ขอปิดด้วยภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทำให้คุณรู้ว่า LGBTQ+ เป็นอะไรได้ทุกอย่างแบบที่ชาย และ หญิงแท้ๆ ทำได้ และพวกเขายังสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับโลกได้ด้วยการ “กอบกู้วิกฤตโลก” นั่นก็คือ “The Imitation Game” ถอดรหัสอัจฉริยะพลิกโลก สร้างจากเรื่องจริงของ อลัน ทัวร์ริ่ง นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่ยับยั้งการวางระเบิดในยุคสงครามโลกจากสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นรากฐานสำคัญของคอมพิวเตอร์ และระบบ AI ในปัจจุบัน ซึ่ง Benedict Cumberbatch ยังได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจากการแสดงอันแสนอัจฉริยะของเขาอีกด้วย
ครบ 10 เรื่องที่คุณต้องไม่พลาด สำหรับภาพยนตร์ที่ตัวละครหลักเป็น LGBTQ+ ที่ Flex104.5 คัดสรรค์มาอย่างดี สุดสัปดาห์นี้ตามหาใน Application Steaming ภาพยนตร์ที่ให้บริการในบ้านเรา แล้วจัดยาวๆ กันได้เลย!!! Happy Pride!!!