เรื่องน่ารู้บทเพลง “STRANGE FRUIT” บทเพลงอมตะแห่งการต่อสู้ของ “คนผิวดำ” ก่อนชม “THE UNITED STATES VS BILLIE HOLIDAY บิลลี ฮอลิเดย์ เสียงเพลงสู้อเมริกา”
เพราะเธอเชื่อว่า ‘เสียงเพลงและดนตรี’ นั้นทรงพลังพอที่จะต่อสู้กับการแบ่งแยกการเหยียดสีผิว ความอยุติธรรม และสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้เพลง ‘Strange Fruit’ ของราชินีเพลงแจ๊ส ‘บิลลี ฮอลิเดย์’ ยังคงตราตรึงและเป็นตัวแทนแห่งเสียงของผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้
เพลงอมตะของเธอ จึงกลายเป็น เพลงนี้ ‘Strange Fruit’ ที่มาของเพลงเกิดจากเหตุฆ่าแขวนคอชายผิวดำสองคนที่ชื่อ โทมัส ชิปป์ และ อับราม สมิธ ซึ่งพวกเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าลงมือฆ่าชายผิวขาว คลอด ดีเทอร์ และข่มขืนแฟนสาว แมรี่ บอล (ภายหลังเธอสารภาพว่ากุเรื่องข่มขืนขึ้น) โดยภาพนี้ได้ถูกถ่ายไว้ และรู้จักกันในนาม Lynching of Thomas Shipp and Abram Smith เมื่อ เอเบล มีโรโพล ชาวอเมริกันเชื้อสายยิวได้เห็นภาพดังกล่าวและรู้สึกสะเทือนใจ เขาจึงนำความรู้สึกนั้นมาเขียนเป็นบทกวีชื่อ ‘Bitter Fruit’ และตีพิมพ์ลงในวารสาร The New York Teacher ของสหภาพครู เพื่อแสดงการต่อต้านการทำร้ายและใช้ความรุนแรงต่อคนผิวดำ ก่อนจะนำมาแต่งทำนองเพลงและให้ภรรยาของเขาร้อง จนเมื่อเจ้าของคลับที่ บิลลี ฮอลิเดย์ ร้องเพลงอยู่มาได้ยินเพลงดังกล่าวเข้า เขาจึงติดต่อให้เอเบลมาทำเพลงนี้ให้บิลลี ฮอลิเดย์
ครั้งแรกที่ บิลลี ฮอลิเดย์ได้ฟังเพลงนี้ เธอรู้สึกเจ็บปวดและหวนคิดถึงคุณพ่อ ซึ่งต้องเสียชีวิตลงจากการถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา เพียงเพราะเป็นคนผิวดำ
เพลง Strange Fruit เริ่มโด่งดังจากการที่ บิลลี ฮอลิเดย์ ร้องสดในคลับ แต่ จอห์น แฮมมอนด์ โปรดิวเซอร์ของเธอ รวมถึงต้นสังกัดอย่าง โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ ปฏิเสธที่จะให้เธอบันทึกเสียง เพราะกลัวว่าคนผิวขาวฟังแล้วจะไม่ปลื้ม เลยอนุญาตให้เธอไปบันทึกเสียงกับค่ายอื่น ต่อมา มิลต์ เกเบลอร์ เจ้าของค่ายเพลงแจ๊สทางเลือกอย่างคอมโมดอร์ ได้ยินบิลลีร้องเพลงนี้ในแบบอะแคปเปลลาและชื่นชอบเป็นอย่างมาก จึงเข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ และเพลงก็ถูกวางจำหน่ายในปี 1939
เพลง Strange Fruit ขายได้มากกว่า 1 ล้านก็อปปี้ และเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ บิลลี ฮอลิเดย์ มันคือเสียงสะท้อนของผู้คนที่ต้องเผชิญกับความอยุติธรรม การต่อสู้ และความเจ็บปวดของคนผิวดำที่ถูกเลือกปฏิบัติเสมอมา
ความโด่งดังและเนื้อหาที่สะท้อนปัญหาของคนผิวดำได้อย่างบาดลึกของ Strange Fruit ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่พอใจ และต้องการให้บิลลี ฮอลิเดย์หยุดร้องเพลงดังกล่าว นำมาสู่การต่อสู้ของเธอกับรัฐบาล ซึ่งราชินีเพลงแจ๊สเจ้าของฉายา เลดี้ เดย์ คนนี้ต้องแลกด้วยชีวิต
พบกับเรื่องจริงและเรื่องราวการต่อสู้ของ ‘บิลลี ฮอลิเดย์’ นักร้องขบถ เสียงเพลงกบฎที่ทั้งโลกอยากฟัง
“The United States VS Billie Holiday บิลลี ฮอลิเดย์ เสียงเพลงสู้อเมริกา” เร็วๆ นี้ ในโรงภาพยนตร์