site loader
site loader
27/07/2021 “น้องเทนนิส” หอบเหรียญทองกลับไทยแล้ว “ชาวภูเก็ต” ร่วมต้อนรับแน่น

“น้องเทนนิส” หอบเหรียญทองกลับไทยแล้ว “ชาวภูเก็ต” ร่วมต้อนรับแน่น

“น้องเทนนิส” หอบเหรียญทองกลับไทยแล้ว “ชาวภูเก็ต” ร่วมต้อนรับแน่น

“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทยเบอร์ 1 โลกรุ่น 49 กก.หญิงวัย 24 ปี ซึ่งคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกให้ทีมเทควันโดไทย และเหรียญแรกให้ทัพนักกีฬาไทย ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 พร้อมด้วย “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี, “โค้ชเช” เช ยอง ซ็อก เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ และทีมเทควันโดไทย เดินทางกลับจากญี่ปุ่น ด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ 726 ถึงสนามบินภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 09.25 น. โดยคณะดังกล่าวมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเดินทางกลับมาด้วย

บรรยากาศที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต มี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คณะผู้บริหาร, นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ พ่อของ น้องเทนนิส , “บิ๊กเอ” นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ รวมถึงประชาชน และสื่อมวลชนให้การต้อนรับฮีโร่กลับบ้านเป็นจำนวนมาก

สำหรับ “น้องเทนนิส” และทีมเทควันโดไทย จะเข้าพักในนโยบาย “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ต ซิตี้ โภคีธรา สุดหรูระดับ 5 ดาว นอกจากนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดให้มีขบวนแห่ฉลองเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ให้กับน้องเทนนิสที่ภูเก็ต ภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังที่เข้มงวด เนื่องจากยังจะต้องรอผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของน้องเทนนิส และทีมงาน 12 ชั่วโมงหลังจากเดินทางกลับถึงไทย รวมทั้งเตรียมที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ ที่ภูเก็ตด้วย

Related Post

องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 คุณภาพ ภายใต้โครงการ “ATK คุณภาพเพื่อสังคมไทย” ในราคาชุดละ 40 บาท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 พร้อมเปิดให้ประชาชนจองโรงแรม-ที่พักแล้ว

วัคซีน mRNA

นพ.อำนาจ กุสลานันท์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นการนำเข้าวัคซีน mRNA ว่า “ข่าวด่วน ข่าวดี”

15/07/2021 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพาดหัวคำเตือนจาก WHO พบบิดเบือนจากความหมาย!!!

จากกระแสฮือฮาเรื่อง WHO ออกเตือน ว่าฉีดวัคซีน 2 ยี่ห้อไม่ปลอดภัย ทางนักวิชาการ WHO แจ้งตรวจสอบพบพาดหัว-ตัดต่อเนื้อหาทำเข้าใจผิดตามที่มีการแชร์ข่าวและข้อมูลว่า “WHO เตือนเลี่ยงฉีดวัคซีนผสมสูตร โดยระบุว่าเป็นอันตราย หรือ “dangerous trend” นั้น

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อความที่รายงานข่าวในประเทศไทยนั้น แปลมาจากข่าวที่รายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งพาดหัวว่า “WHO warns against mixing and matching COVID vaccines” ซึ่งเผยแพร่เมื่อ 00.40 น. 13 ก.ค. 64 ตามเวลาในประเทศไทย โดยมีข้อความบางส่วนจากคำพูดของ Dr.Soumya Swaminathan หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลกท่านดังกล่าว ได้แก่ “It’s a little bit of a dangerous trend here. We are in a data-free, evidence-free zone as far as mix and match,”และ”It will be a chaotic situation in countries if citizens start deciding when and who will be taking a second, a third and a fourth dose.”

(ข่าวต้นฉบับ] https://www.reuters.com/…/status/1414640744762073089)

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ข่าวเผยแพร่ออกไป เมื่อเวลา 01.44 น. 13 ก.ค. 64 หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลกท่านนั้น ได้เขียนข้อความบนบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยอ้างอิงข่าวดังกล่าว โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า “บุคคลทั่วไป ไม่ควรตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ควรเป็นหน่วยงานสาธารณสุขตัดสินใจบนฐานของข้อมูลที่มี…”

(ข่าวต้นฉบับ) “Individuals should not decide for themselves, public health agencies can, based on available data. Data from mix and match studies of different vaccines are awaited – immunogenicity and safety both need to be evaluated” https://twitter.com/doctors…/status/1414657053180809224…

นอกจากนั้น Dr.Soumya ยังรีทวิตและแสดงความขอบคุณ Menaka Pai แพทย์นักวิชาการอีกท่านหนึ่ง ที่เขียนทวีตว่า พาดหัวข่าวเรื่องที่ออกมาเตือนการผสมวัคซีนนั้น เป็นการพาดหัวที่ทำให้เข้าใจผิด เช่นข้อความที่แปลได้ว่า

“Dr.Soumya ต้องการเตือนไม่ให้บุคคลทั่วไป ‘ช็อปปิ้งวัคซีน’ ด้วยตัวเอง โดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานสาธารณสุข (รวมทั้งการตัดสินใจฉีดโดส 3 หรือ 4 เอง)” “เธอไม่ได้บอกว่า นโยบายวัคซีนของแต่ละประเทศเป็นอันตราย”

(https://twitter.com/mpaimd/status/1414670469312172033…)

ดังนั้น ข้อความที่อยู่บนพาดหัวข่าว และมีการนำมารายงานต่อกันนั้น จึงไม่สอดคล้องตรงกับบริบทและจุดมุ่งหมายของผู้ที่กล่าวข้อความแต่อย่างใด

ส่วนแนวทางการ Mix & Match สลับวัคซีนนั้น มีข้อมูลการดำเนินการศึกษาและส่งเสริมในบางประเทศ เช่น แคนาดา https://www.cp24.com/…/canadian-health-officials-defend… รวมทั้งล่าสุดในประเทศไทย

Related Post
TikTok

พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบและเรียก นายฐาปะนัน งอสอน อายุ 21 ปีเศษ ที่อยู่ Read more

นักศึกษา AI

“หัวจื้อปิง” มิใช่หญิงสาววัยรุ่นวัยเรียนทั่วไป เพราะเธอคือ “นักศึกษาเสมือนจริงที่กำเนิดจากระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขนานใหญ่” คนแรกของจีน

แอน จักรพงษ์

แอน จักรพงษ์” เผยส่งฟ้องแล้ว 11 ราย กรณีหมิ่นประมาทเรื่องซื้อกิจการร้านอาหาร

15/07/2021 ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

ข่าวดี! ไทยวิจัย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ได้สำเร็จ ลดการนำเข้า รักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตาม ความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศ สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circula-Green Economy) ของรัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รายงานว่า ได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวทช. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท ปตท.

เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์สารตั้งต้น (Active Pharmaceutical Ingredients : API) ของการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ ความเป็นไปได้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ เพี่อสร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศไทย โดยความร่วมมือดังกล่าว มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถสังเคราะห์สารตั้งต้นที่มีความบริสุทธิผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และยังเป็นการสังเคราะห์จากสารตั้งต้นที่มีราคาถูกโดยไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันต้องมีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 95

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทางองค์การเภสัชกรรมคาดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้วิจัยและพัฒนาขึ้นนั้น จะได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และจากนั้นจะเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อให้ผู้ป่วย โควิด-19 เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจะสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ในราคาที่ถูกกว่านำเข้าอย่างมาก

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สวทช. อภ. และ บริษัท ปตท. ด้วยว่า ครอบคลุมตั้งแต่การทดสอบในระดับห้องปฏิบัติการ (Laboratory scale) การถ่ายทอดเทคโนโลยีจนถึงระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) ตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Feasibility Study) ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลความร่วมมือ รัฐ-เอกชน ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยา ขณะเดียวกันการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยนักวิจัยไทยก็มีความก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทย ระยะยาวนำไปสู่การลดการนำเข้า และยังเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งบุคคลากรมีทั้งความรู้และนำไปต่อยอดเพื่อการผลิตขายต่อไปด้วย

Related Post
วิจัยโควิด

เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานโดยอ้างอิงงานวิจัยชิ้นใหม่ที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเมื่อราว 20,000 ปีก่อน

คนละครึ่ง - ยิ่งใช้ยิ่งได้

กระทรวงการคลังเตรียมปรับตัวเชื่อมต่อ “คนละครึ่ง - ยิ่งใช้ยิ่งได้" ปรับตัวเข้ากับ Delivery เพิ่มความสะดวกมากขึ้น

กัญชา

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง กล่าวว่า ล่าสุด กัญชง และกัญชา ได้รับการปลดล็อกทางกฎหมายให้ประชาชนสามารถขออนุญาตเพาะปลูกได้แล้ว

15/07/2021 “จี๊บ เทพอาจ” มอบกำลังใจสู่ครอบครัว วีรบุรุษ นักดับเพลิง “น้องพอส”

“จี๊บ เทพอาจ” มอบกำลังใจสู่ครอบครัว วีรบุรุษ นักดับเพลิง “น้องพอส”

“จี๊บ เทพอาจ” มอบกำลังใจสู่ครอบครัว วีรบุรุษ นักดับเพลิง “น้องพอส”

จี๊บ เทพอาจ

นับว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงสร้างความเสียหาย และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนในวงกว้าง กับเหตุการณ์ระเบิด ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านระแวงนั้นได้รับบาดเจ็บ และมีเจ้าหน้าที่วีรบุรุษนักดับเพลิงเสียชีวิต 1 ราย ระหว่างควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ที่โรงงานผลิตโฟม คือ น้องพอส นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ อายุเพียง 18 ปี ที่เป็นทั้งความหวัง และความฝันของครอบครัว รวมทั้งรุ่นน้อง และเพื่อนที่แสนดีของใครหลายๆ คน

ล่าสุด “คุณ จี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด ได้เห็นตระหนักเห็นถึงความเสียสละของ น้องพอส วีรบุรุษนักดับเพลิง ทางคุณจี๊บ เทพอาจ จึงได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือครอบครัววีรบุรุษนักดับเพลิง อย่างน้องพอส เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการปฏิบัติงาน และเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมตลอดไป นอกจากนี้ยังได้จัดสรร น้ำดื่มตรา Thai Spirit Industry จำนวน 100 แพ็ก มอบให้อีกด้วย

นอกจากนี้ ในสถานการณ์ โควิด-19 ที่กำลังเล่นงานประเทศไทย อย่างหนักในทุกภาคส่วน บริษัท ไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด ส่งความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยมอบเครื่องพ่นน้ำพร้อมยาฆ่าเชื้อ เจลแอลกอฮอล์ น้ำดื่มตรา Thai Spirit ให้กับตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 5 บ้านบางไทร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งในชุมชนดังกล่าวนั้นมีทั้งประชาชนทั่วไปในพื้นที่ พนักงานของบริษัทฯ และมีครอบครัวที่มีเด็กเล็กจำนวนมากในชุมชน ให้กับประชาชนและชาวบ้านผู้พักอาศัย ให้เราผ่านวิกฤตนี้อย่างปลอดภัยไปด้วยกัน

Related Post
พอส

(6 ก.ค.64) ได้มีพิธีเคลื่อนขบวน ร่างน้องพอส อย่างสมเกียรติ โดยมีอาสากู้ภัยหลายทีมมาร่วมในขบวนด้วย

เจ้าชายวิลเลียม-แฮร์รี่

เดลี่เมล สื่อเมืองผู้ดี รายงานว่า ขณะนี้เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่ ยังทรงไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาคืนดีกัน

แคมป์คนงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวว่า ในช่วงปิดแคมป์ 1 เดือน กระทรวงฯ จะจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน จากเหตุสุดวิสัยโควิด-19